ไอโฟนพลังแสงอาทิตย์?

on วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2552

ไม่ว่าค่ายแอปเปิลจะขยับทำอะไร เป็นต้องส่งแรงสะเทือนต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ทุกครั้งไป ไล่เลียงมาตั้งแต่เครื่องคอมพิวเตอร์แมค เครื่องเล่นเพลงดิจิตอลไอพ้อด จนถึงโทรศัพท์มือถือไอโฟน ล่าสุดมีข้อมูลเล็ดลอดมาจากเว็บ MacRumors.com ว่า แอปเปิลอาจคิดหาทางที่จะยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ อาศัยพลังงานจากแสงอาทิตย์ก็เป็นได้ จากกรณีที่มีพนักงานในแอปเปิลยื่นจดสิทธิบัตรเทคโนโลยี แผงพลังงานแสงอาทิตย์บนอุปกรณ์พกพา ซึ่งอาจหมายถึงการผนวกแผงพลังงานไฟฟ้าแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ลงใต้หน้าจอของอุปกรณ์ ตามรายละเอียดขอจดสิทธิบัตรระบุว่ามีการใช้หน้าจอแสดงผลแบบกึ่งโปร่งใส โดยมีแผงโซลาร์เซลล์ซ้อนอยู่ข้างใต้ ประกบหน้าด้วยที่แผ่นครอบที่มีเทคโนโลยีแบบสัมผัส

ด้วย คุณสมบัติดังกล่าว ทำให้คาดได้ว่า ในไม่ช้าเทคโนโลยีล่าสุดนี้อาจประยุกต์ใช้กับไอพ้อด หรือไม่ก็ไอโฟน และนอกจากนี้ ในสิทธิบัตรยังระบุรายละเอียดถึงการใช้แผงโซลาร์เซลล์เรียงซ้อนประกบไปกับ แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์หนึ่งๆ ที่อยู่ในอุปกรณ์ ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าจะเป็นการใช้โซลาร์เซลล์กับระบบประมวลผลข้อมูลและหน่วย ความจำได้ด้วย

อันที่จริงแอปเปิลไม่ได้เป็นราย แรกที่คิดผนวกแผงโซลาร์เซลล์เข้าไปในอุปกรณ์ โมโตโรล่าเอง ก็พัฒนาหน้าจอที่เอื้อให้มีแสงผ่านเข้าไปได้ประมาณ 75% ซึ่งหมายถึงความเป็นไปได้ที่จะฝังโซลาร์เซลล์เข้าไปด้านหลังให้เป็นแหล่ง พลังงานได้เช่นกัน

ขณะที่ การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ หากแต่ย้อนกลับไปได้จนถึงกลางทศวรรษ 1800 อุปกรณ์ที่ยังเห็นกันทุกวันนี้ เช่น เครื่องคิดเลข หรือนาฬิกาข้อมือพลังแสงอาทิตย์ แต่ความต่างระหว่างเทคโนโลยีเดิมกับสิทธิบัตรของแอปเปิลกลับอยู่ตรงที่ พลังงานที่จำเป็นต้องใช้กับตัวอุปกรณ์เสียมากกว่า อย่างกรณีโทรศัพท์มือถือไอโฟน ความล้ำหน้าของเทคโนโลยีการทำงานก็มาคู่กับการใช้พลังงานในปริมาณมาก ซึ่งนายไมเคิล ฟิลเลอร์ นักเรียนทุนหลังปริญญาเอกด้านพลังงานไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ของสถาบันเทคโนโลยี แห่งแคลิฟอร์เนีย (แคลเทค) คำนวณว่า ไอโฟน 1 เครื่องอาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่าการใช้พลังงานของนาฬิกาข้อมือโซลาร์เซลล์ จำนวน 250,000-1 ล้านเครื่องรวมกัน

ความท้าทาย ยังอยู่ที่การใช้พลังแสงอาทิตย์กับอุปกรณ์แบบพกพา เช่น โทรศัพท์มือถือซึ่งโดยทั่วไปมักจะเก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าถือ ทำให้ไม่ได้รับแสงเพื่อชาร์ตพลังงานได้ตลอดเวลาซึ่งบางครั้งกว่าจะนำออกมา ใช้งาน ถ้าจะพึ่งพลังงานจากแสงในอาคารหรือวันที่มีเมฆมากย่อมได้พลังงานที่น้อยกว่า มาก

ทั้งยังไม่นับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ไว้ ใต้หน้าจอจากข้อมูลที่แอปเปิลยื่นจดสิทธิบัตร ซึ่งการประกบแผงโซลาร์เซลล์ไว้ด้านในอุปกรณ์ อาจกั้นแสงบางส่วนที่ส่องลงมาบนโซลาร์เซลล์ ทำให้ไม่ได้พลังงานเต็มที่ ซึ่งนายฟิลเลอร์มองว่า ด้วยเทคโนโลยีของหน้าจอแอลอีดี อย่างกรณีของไอโฟนออกแบบมาเพื่อให้สะท้อนแสงออกสู่ด้านนอกไปยังผู้ใช้ แต่ในทางทฤษฎีก็เป็นไปได้ที่แสงบางส่วนจากแอลอีดีจะสะท้อนกลับเข้าไปด้านใน ระบบ แผงโซลาร์เซลล์ที่ฝังไว้ด้านในอาจรับแสงส่วนดังกล่าวได้บ้าง อีกสิ่งที่เป็นความท้าทายคือ ตัวอุปกรณ์พกพาที่นับวันจะพัฒนาให้มีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ อาจไม่เอื้อหรือไม่เหลือพื้นที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์อีกต่อไป

กระนั้น เทคโนโลยีโซลาร์เซลล์ในโทรศัพท์มือถือที่พูดกันใช่ว่าจะมีการพัฒนาอุปกรณ์ ออกมาในเร็ววันอย่างน้อยก็ใน 5 ปีนี้ กระนั้น แค่เพียงแอปเปิลเป็นผู้จุดกระแส ก็อาจเป็นแรงกระเพื่อมต่ออุตสาหกรรมให้ตื่นตัวกับการพัฒนาเทคโนโลยีโซลา ร์เซลล์ตาม อุปสรรคที่มีในวันนี้ก็อาจคลี่คลายลงในวันหน้า

0 ความคิดเห็น: